โรงงานผลิตและจำหน่าย เหล็กกล่อง ทั้งปลีกและส่งในราคาโรงงาน

การนำไปใช้งาน

มักนิยมนำไปใช้สำหรับงานโครงสร้างที่รองรับน้ำหนักไม่มากนัก อย่างเช่น งานแปหลังคา ทำสะพาน งานเสา นั่งร้าน หรือนำไปประยุกต์ใช้ในงานทั่วไป ทดแทนการใช้ไม้ คอนกรีต สำหรับงานก่อสร้างอาคาร ที่พักอาศัย และโรงงาน เป็นต้น

การนำ เหล็กกล่อง ไปใช้งานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในงานโครงสร้างและก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานที่ต้องรองรับน้ำหนักที่ไม่มากนัก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลากหลายงานตามความเหมาะสมของวัสดุนี้

หนึ่งในงานที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายคืองานแปลงหลังคา โดยสามารถทำหลังคาที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาวะอากาศได้ดี เป็นทางเลือกที่ดีในการแทนไม้ที่มีอายุการใช้งานสั้นหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย

นอกจากนั้น ยังนิยมใช้ในการสร้างสะพาน โดยเฉพาะสะพานที่มีขนาดเล็ก โดยมีความแข็งแรงและทนทานต่อการเกิดแรงกระทบได้ดี การใช้ในงานสร้างสะพานทำให้สะพานมีความทนทานและคงที่ เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่และนำมาใช้กับงายโครงสร้างของรถยนต์

นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในงานสร้างเสา โดยเฉพาะในการสร้างเสาไฟฟ้า หรือเสาโคมไฟสาธารณะ โดยมีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาวะอากาศ จึงเหมาะสำหรับใช้ในที่ที่ต้องการเสาที่มีความทนทานต่อสภาวะอากาศและแรงเสียดทาน

นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานทั่วไปได้อีกหลายแบบ เช่น การใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย โรงงาน หรือสถานที่อื่น ๆ ที่ต้องการวัสดุที่แข็งแรงและทนทานต่อสภาวะอากาศ สามารถใช้ เหล็กกล่อง เป็นวัสดุอื่น ๆ ทดแทนคอนกรีตหรือวัสดุอื่น ๆ ที่ใช้ในงานก่อสร้างสิ่งก่อสร้างได้อย่างเหมาะสม

ดังนั้นการนำไปใช้งานในงานโครงสร้างและก่อสร้างเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีความแข็งแรงและทนทาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องรองรับน้ำหนักที่ไม่มากนัก และมีความต้องการในวัสดุที่ทนทานต่อสภาวะอากาศหรือแรงกระทบต่าง ๆ

ขนาดของเหล็กกล่อง มอก. มาตารฐาน iso

เหล็กกล่อง มีหลายขนาด และมีวิธีการเลือกซื้อวัสดุเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพตาม (มอก.) และ (JIS) โดยมีขนาดต่าง ๆ ดังนี้

• เหล็กแป๊บแบน 1×1 นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 9.06 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 1 1/4×1 1/4 นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 11.61 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 1 1/4×1 1/4 นิ้ว หนา 3.20 มม. น้ำหนัก 15.31 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 1 1/2×1 1/2 นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 14.99 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 1 1/2×1 1/2 นิ้ว หนา 3.20 มม. น้ำหนัก 18.73 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 2×2  นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 19.28 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 2×2 นิ้ว หนา 3.20 มม. น้ำหนัก 25.50 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 3×3 นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 28.66 กก./เส้น (JIS)
• เหล็กแป๊บแบน 3×3 นิ้ว หนา 3.20 มม. น้ำหนัก 40.19 กก./เส้น (มอก.)
• เหล็กแป๊บแบน 4×4 นิ้ว หนา 2.30 มม. น้ำหนัก 38.27 กก./เส้น (JIS)
• เหล็กแป๊บแบน 4×4 นิ้ว หนา 3.20 มม. น้ำหนัก 53.65 กก./เส้น (มอก.)

เปรียบเทียบกับวัสดุอื่นๆ

การเลือกใช้วัสดุในการสร้างโครงสร้างหรือบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากวัสดุที่ถูกเลือกใช้จะมีผลต่อความแข็งแกร่ง ความทนทาน และความปลอดภัยของสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นหรือบรรจุภัณฑ์

เหล็กกล่อง

เป็นวัสดุที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างและบรรจุภัณฑ์ มีความแข็งแกร่งสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน และมีความทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถรับน้ำหนักได้มาก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ไม้เค้า

ไม้เค้าเป็นวัสดุที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างและบรรจุภัณฑ์มาก่อนที่จะมีการใช้เหล็ก ไม้เค้ามีความแข็งแกร่งแต่ไม่สูงเท่ากับเหล็ก และไม้เค้ายังมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้นที่ต่ำกว่าเหล็ก

คอนกรีต

คอนกรีตเป็นวัสดุที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างและบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแกร่งสูง แต่ไม่ได้มีความทนทานต่อแรงกระแทกเท่ากับเหล็ก คอนกรีตมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้น แต่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากเท่าเหล็กกล่อง

พลาสติก

พลาสติกเป็นวัสดุที่ใช้ในการสร้างบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและความกันกระแทก แต่พลาสติกไม่ได้มีความแข็งแกร่งเท่ากับเหล็ก และพลาสติกยังมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้น

สรุป

• มีความแข็งแกร่งสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
• ไม้เค้ามีความแข็งแกร่งแต่ไม่สูงเท่ากับเหล็กและมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้น
• คอนกรีตมีความแข็งแกร่งสูง แต่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากเท่าเหล็ก และมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้น
• พลาสติกมีความยืดหยุ่นและความกันกระแทก แต่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งเท่ากับเหล็กและมีความทนทานต่อการเปียกน้ำและความชื้น

การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างหรือบรรจุภัณฑ์ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ คุณควรพิจารณาคุณสมบัติและประโยชน์ของแต่ละวัสดุเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด